5 ร้านอาหารใหม่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านขายของ

เวลาสาวๆ (หรือหนุ่มๆ ก็เถอะ) ไปช้อปนั้น บ่อยครั้งที่เมื่อหิวขึ้นมากลับหาร้านอาหารไม่ได้ซะอย่างงั้น โดยเฉพาะเวลาไปที่ร้านเพื่อซื้อของที่เราต้องการจริงๆ ไม่ใช่ร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ซึ่งอาจจะไม่มีร้านอาหารตั้งอยู่ใกล้ๆ หรือมีแต่ไม่ถูกใจ แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับร้านที่เราเอามาฝากในวันนี้แน่นอน เพราะทุกร้านมีร้านอาหารตั้งอยู่ข้างในพร้อม! ถ้าหิวก็เดินไปสั่งอาหาร แล้วไปเดินช้อปต่อรออาหารมาเสิร์ฟได้เลย! มาดูกันดีกว่าว่ามี ร้านอาหารใหม่ อะไรบ้าง!
เรื่องที่คุณอาจสนใจ: 9 สถานที่สุดชิค ณ เชียงใหม่ ที่ควรไปสักครั้งเพื่อส่องหนุ่ม!, ตลาดนัดกลางคืน สุดฮิตในกรุงเทพฯ ช้อปแบบนี้ไม่มีร้อน!!!, 10 ร้านชาบู น่าอร่อยโดนใจในกรุงเทพฯ
Casa Pagoda & Luka Cafe
ที่ตั้งร้าน: 64/1 ถนนปั้น
ติดต่อร้าน: โทร. 02-637-8558 หรือ Facebook Lukabangkok
เวลาเปิดร้าน: จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 19.00 น. | เสาร์-อาทิตย์ 8.30 – 19.00 น.
ของที่ขาย: ร้านนำเขาเฟอร์นิเจอร์หรูที่แตกสาขาออกมาจากสุขุมวิท 45 มายังถนนปั้น โดยยังคงคอนเซปเหมือน Casa Pagoda สาขาดั้งเดิม ที่ให้บรรยากาศของบ้านพักตากอากาศสำหรับพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์สไตล์โพรวองซ์ อีกทั้งผสมผสานระหว่างร้านอาหารเล็กๆ โซฟาหนัง และความเคร่งขรึมของโซฟาหนังและเก้าอี้แบบวินเทจ โดยสาขานี้จะเน้นไปที่เครื่องเรือนแปลกใหม่ที่หาไม่ได้ในสาขาสุขุมวิท 45

อาหารที่เสิร์ฟ: ลูก้า คาเฟ่ ที่เชื่อมติดกันนั้นเสิร์ฟเมนูหนักท้องที่หลากหลาย ผลงานของเชฟศิโรจน์ อุดมทองสุข ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับร้านอย่าง Savelberg, Gaggan และ Water Library มาแล้ว โดยที่นี่จะเน้นไปที่เมนูเรียบง่ายอย่าง เบรคฟาสต์เบอร์ริโต้ แซนด์วิชไก่ทอด หรือเมนูแนะนำอย่าง แซนด์วิชกริลชีสที่มาพร้อมกับซุปมะเขือเทศเข้มข้น

Knock BKK
ที่ตั้งร้าน: 3/F, 333/1 ซอยทองหล่อ อยู่ระหว่างซอย 15 และ ซอย 17
ติดต่อร้าน: โทร. 081-375-6625 หรือ KnockBKK
เวลาเปิดร้าน: อังคาร – ศุกร์ 12.00 – 19.00 น. | เสาร์-อาทิตย์ 11.00 – 22.00 น.
ของที่ขาย: จากร้านขายรองเท้าและสตรีทแวร์ออนไลน์ พัฒนาจนได้มาตั้งร้านอยู่ในซอยทองหล่อ แถมยังมาพร้อมกับร้านอาหารที่ชั้นล่างอีกด้วย โดยของภายในร้านมุ่งเน้นไปที่สนีกเกอร์ของ Nike Jordan, Nike Air, Adidas และ Saucony ที่มีราคาหลากหลายตั้งแต่ Air Jordan 1 Mid คู่ละ 3,400 บาทไปจนถึง Nike Dunk Low Pro SB คู่ละ 35,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืดและเครื่องประดับจากสตรีตแบรนด์อย่าง ICNY และ Mostly Heard Rarely Seen วางจำหน่ายด้วย

อาหารที่เสิร์ฟ: เมนูที่สร้างสรรค์โดยชาลี เคเดอร์ แห่งร้าน Surface และ Beer Bridge เน้นไปที่คอมฟอร์ทฟูดแบบตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นคัพเค้กไก่ทอดและวาฟเฟิ้ล Shrimp Po’Boy หรือกุ้งทอดบนขนมปังเปรี้ยว เสิร์ฟพร้อมซอสรีลิชแบบอเมริกันและซอสทาร์ทาร์ และน่องไก่กับขนมปัง ไส้กรอกสเปน เสิร์ฟพร้อม โรสเมรี่และสลัดเฟนเนล

It’s Happened to be a Closet
ที่ตั้งร้าน: สุขุมวิท ซอย 23
ติดต่อร้าน: โทร. 081-565-2026 หรือ Facebook HappendToBe
เวลาเปิดร้าน: ทุกวัน 08.00 – 24.00 น.
ของที่ขาย: ชื่อของแบรนด์แฟชั่นยิปซีนี้เลื่องลืออยู่ในกรุงเทพมาตั้งแต่ปี 2547 และเดินทางมาแล้วทั่วกรุงเทพตั้งแต่สยามสแควร์ ไปยังถนนข้าวสาร ไปถึงเอ็มโพเรียม ก่อนจะมาลงหลักปักฐานอยู่ที่สุขุมวิท 23 ซึ่งได้ปรับปรุงบ้านเก่าหลังหนึ่งจนกลายมาเป็นร้านไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่กว่าทุกร้านที่เคยเปิดมา จึงทำให้เกิดความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น มุมของขวัญ โซนร้านอาหาร บริการทำเล็บ นวดฝ่าเท้า และยังมีเวิร์คชอปต่างๆ ตลอดทั้งสัปดาห์อีกด้วย และเวิร์คชอปที่ขอนำเสนอเป็นพิเศษก็คือ เวิร์คชอปทำเครื่องประดับ ที่เปิดสอนทุกวันพฤหัสบดี โดยจะสอนการทำตุ้มหู เข็มกลัด และสร้อยข้อมือแบบ DIY และเวิร์คชอปศิลปะการจัดช่อดอกไม้ที่เปิดสอนทุกวันเสาร์

อาหารที่เสิร์ฟ: เมนูอาหารที่นี่จะเน้นเป็นอาหารตะวันตกง่ายๆ เช่น หอยนางรมสด สลัดต่างๆ และเมนูพาสต้า ถ้าสนใจก็ลองดูบนหน้าเพจเฟซบุกของทางร้านได้ว่า ช่วงนี้มีเมนูพิเศษอย่าง Blue Mussels เสิร์ฟหรือเปล่า อ้อ โทรไปจองล่วงหน้าไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนะ

Featherstone
ที่ตั้งร้าน: 60 เอกมัย ซอย 12
ติดต่อร้าน: โทร. 097-058-6846 หรือ Facebook FeatherstoneCafe
เวลาเปิดร้าน: พุธ – จันทร์ 10.30 – 22.00 น. (ร้านปิดวันอังคาร)
ของที่ขาย: คาเฟ่และร้านไลฟ์สไตล์เปิดใหม่แห่งนี้ ภายในร้านเต็มไปด้วยตุ้มหูและเครื่องประดับต่างๆ ที่ทำมาจากขนนกและก้อนหินที่เจ้าของร้านเป็นคนสะสมเอาไว้สมกับชื่อของร้าน ความเป็นโบฮีเมียนนี้แทรกซึมลงไปถึงกระเป๋าหนังเย็บมือของทางร้าน และสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น กระเป๋าหวาย และเครื่องประดับลูกปัดที่ส่งตรงมาจากชุมชนคนรักงานฝีมือของไทยนี่เอง

อาหารที่เสิร์ฟ: อาหารที่เสิร์ฟภายในร้านจะเป็นเมนูง่ายๆ อย่างสลัด พาสต้า สเต็ก และพิซซ่า อ้อ ขอแนะนำเครื่องดื่มที่ชื่อ Wild Gardenia นิดนึง เป็นโซดากลิ่นลาเวนเดอร์ที่สวดสดงดงาม โดดเด่นด้วยน้ำแข็งดอกไม้และสมุนไพรสุดแสนน่ารัก ควรค่าแก่การอัพรูปลงอินสตาแกรมสุดๆ

Organika
ที่ตั้งร้าน: 6/F พิมาน 49, สุขุมวิท ซอย 49
ติดต่อร้าน: โทร. 02-665-1899 หรือ Facebook OrganikaHouse
เวลาเปิดร้าน: ทุกวัน 10.00 – 21.00 น.
ของที่ขาย: โฮมสปาที่ขยายตัวมาเป็นร้านทำสปาเต็มรูปแบบของดาราสาวสวยอย่างศรีริต้า เจนเซ่น มาพร้อมกับร้านอาหารสีขาวที่ซ่อนตัวอยู่ในดงต้นไม้เขียวชอุ่มแห่งนี้ มีทรีตเมนต์หลากหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ Organika Aromatic Massage, Ajurvedic Compress Massage ไปจนถึง Organika Facial Treatment นอกจากนี้ยังมีแพคเกจสปาครึ่งวันแบบแพคคู่ ที่จะพาคุณไปอาบน้ำนม มาส์คและขัดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค นวดตัว นวดหน้า ทรีตเมนต์สปามือและเท้า และชุดไฮทีกลิ่นหอมรอพร้อมเสิร์ฟตบท้ายอีกด้วย หรือหากสนใจผลิตภัณฑ์ของทางร้าน ก็สามารถซื้อติดมือกลับบ้านได้เช่นกัน

อาหารที่เสิร์ฟ: ที่คาเฟ่นี้จะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพจากเชฟชาลี เคเดอร์ ซึ่งมีทั้งการ์เด้นสลัดอกไก่ และสลัดแครอทปลูกเอง สำหรับเมนูน้ำชานั้น ชื่อของแต่ละเมนูมีลูกเล่นล้อไปกับชื่อของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในสปา เช่น Memoirs of Sunrise

เป็นยังไงล่ะ ร้านที่เรานำมาฝากในวันนี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบช้อปแอนด์ชิมกันใช่ไหม ลองเลือกไปเยี่ยมดูแต่ละร้านตามสไตล์ของตัวเองกันได้เลย อ้อ แต่เราขอแนะนำนิดนึงว่า ร้านอาหารหลายร้านไม่ได้เป็นแค่โซนอาหารประดับเก๋ๆ นะจ๊ะ โทรไปจองที่กันล่วงหน้าสักหน่อยจะดีกว่า ไปถึงแล้วจะได้ไม่พลาดโอกาสในการชิม